วันจันทร์ที่ 11 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2551

วิตามินอี

Vitamin E

ข้อมูลทั่วไป

  • วิตามินอีเป็นสารต้านอนุมูลอิสระที่สำคัญในร่างกาย ร่างกายไม่สามารถสร้างขึ้นมาได้ มีชื่อทางเคมีว่า Tocopherol เป็นพวกแอลกอฮอล์ไม่อิ่มตัว มีอยู่ ในธรรมชาติ 7 ชนิดด้วยกัน ได้แก่ -alpha,-beta,-delta,-epsilon,-osta,-gamma และ -zeta Alphatocopherol เป็นตัวที่สำคัญที่สุดเนื่องจากมีความสามารถในการต้านอนุมูลอิสระได้ดี วิตามินอีเป็นวิตามินที่มีการค้นพบกันมานาน แต่วิตามินอีที่มีการศึกษาและพูดถึงกันมากคือ โทโคไตรอินอล (tocotrienols) ซึ่งเป็นวิตามินที่ได้จากน้ำมันปาล์ม และมีบทบาทสำคัญคล้าย โทโคฟีรอล ที่มีในน้ำมันพืชทั่วๆ ไป
  • คุณสมบัติ
    • วิตามินอีที่บริสุทธิ์จะมีสีเหลืองอ่อนค่อนข้างเหนียวเหมือนน้ำมัน สามารถละลายได้ในไขมันและตัวทำละลายไขมัน ทนความร้อนได้สูงถึง 200 องศาเซลเซียส ทนต่อกรด แต่ถูกทำลายได้ง่ายในด่าง แสงอัลตร้าไวโอเลต ออกซเดชั่น หรือในน้ำมันเหม็นหืน

ประโยชน์ต่อร่างกาย

  • วิตามินอีจะช่วยปกป้องเซลล์ในร่างกายจากสารอนุมูลอิสระ โดยไปขัดขวางปฏิกิริยาออกซิเดชั่นของสารในร่างกาย โดยอาศัยคุณสมบติของมันเองที่เป็นตัวที่ไวต่อการถูกออกซิไดส์มาก จึงเป็นตัวที่ถูกออกซิไดส์เองแทนสารอื่นๆในร่างกายที่มีความไวต่อการถูกออกซิไดส์ได้น้อยกว่า ป้องกันไขมันไม่อิ่มตัวที่กินเข้าไปรวมกับออกซิเจนซึ่งจะก่อให้เกิดอนุมูลอิสระ เป็นสารต้านไม่ให้หลอดเลือดแข็งตัว และยังขยายหลอดเลือดฝอยเล็กๆ ได้อีกด้วย ทำให้การไหลเวียนดีขึ้น ป้องการการเกาะตัวของเกร็ดเลือดที่ผนังหลอดเลือด จึงช่วยลดการอุดตันของคอเลสเตอรอล ทั้งตัวมันเองยังมีฤทธิ์ลดคอเลสเตอรอล ทำให้ร่างกายมีการนำพาออกซิเจนได้อย่างสะดวก ส่งผลให้ร่างกายใช้ออกซิเจนได้ดีขึ้น ทำให้กล้ามเนื้อมีกำลังมากขึ้น อีกทั้งยังช่วยให้มีการผลัดผิวหนังขึ้นมาใหม่ ช่วยเพิ่มการทำงานของอินซูลิน ทำให้ระบบประสาทดีขึ้นสามารถทำงานได้ตามปกติ ช่วยทำให้ระบบสืบพันธ์เป็นปกติ รักษาอาการเป็นหมันได้ ช่วยป้องกันการเกิดต้อกระจกได้ และยังเชื่อว่าทำลายฤทธิ์ของสารก่อมะเร็งได้ด้วย

แหล่งที่พบ

  • วิตามินอีพบมากใน น้ำมันพืช เช่นจากถั่วเหลือง ข้าวโพด และดอกคำฝอย น้ำมันจมูกข้าวสาลี น้ำมันตับปลา น้ำมันมะกอก น้ำมันเมล็ดทานตะวัน นอกจากนั้นยังพบในผักใบเขียว และพบน้อยลงใน เนื้อ ปลา ผลไม้ เป็นต้น

ปริมาณที่แนะนำต่อวัน

  • โดยทั่วไปควรรับประทานป้องกันการขาดวิตามินอีวันล่ะ 100 IU (INTERNATIONAL UNIT โดย 1 IU เท่ากับ activity ของ 1 มิลิกรัมของ dl-alphatocopheryl acetate) โดยปริมาณที่แนะนำ ทารก อายุ 0 – 1 ปี ควรรับประทานวิตามินอี 4.47 – 5.96 IU เด็ก 1-3 ปี 7.4 IU 4 - 6 ปี 8.94 IU 7 – 9 ปี 10.43 IU เด็กผู้ชาย 10 – 12 ปี 11.92 IU 13 – 15 ปี 13.41 IU 16 – 19 ปี 14.9 IU เด็กผู้หญิง 10 – 19 ปี 11.92 IU ผู้ชาย 60 ปีขึ้นไป 14.9 IU ผู้หญิง อายุ 20 – 60 ปี 11.92 IU หญิงตั้งครรภ์ มากกว่า 2.98 IU ขึ้นไป หญิงให้นมบุตร มากกว่า 4.47 IU ขึ้นไป

ผลของการขาด

  • ยังไม่มีหลักฐานว่าคนที่มีสุขภาพปกติและมีการดูดซึมอาหารได้ดีจะมีภาวะขาดวิตามินอี นอกจากทารกที่คลอดก่อนกำหนด ที่จะเกิดภาวะโลหิตจางเนื่องจากเม็ดเลือดแดงแตกง่าย แต่อย่างไรก็ตามอาการที่ขาดวิตามินอีคือ ระบบการไหลเวียนของโลหิตจะผิดปกติ โดยเฉพาะปลายมือปลายเท้า อาจส่งผลต่อระบบหัวใจโดยส่งผลต่อกล้ามเนื้อหัวใจ เกิดกล้ามเนื้ออ่อนแรง มีการแตกของเม็ดเลือดแดงได้ง่าย อายุของเม็ดเลือดลดลง การดูดซึมเหล็กลดลง และอาจจะเป็นสาเหตุทำให้ตับและไตถูกทำลายได้

ผลของการได้รับมากไป

  • พบว่าถ้าได้รับวิตามินอีวันล่ะ 300 มิลลิกรัมเป็นเวลาหลายเดือนจะส่งผลให้ปวดท้อง คลื่นไส้ อ่อนเพลีย ซึม สายตามัว ถ้ามากกว่า 2000 มิลลิกรัมขึ้นไปเป็นเวลา 3 เดือน จะเกิดอาการมุมปากและริมฝีปากอักเสบ กล้ามเนื้อไม่มีกำลังได้ ในคนปกติไม่ควรเสริมวิตามินอี เพราะไม่มีหลักฐานแสดงถึงประโยชน์ และในแต่ละวันการทานอาหารให้ครบ 5 หมู่ ก็จะได้รับวิตามินอีเพียงพอต่อความต้องการของร่างกาย

การดูดซึม

  • จะถูกดูดซึมที่ลำไส้ เข้าไปในระบบน้ำเหลือง ต่อไปสู่กระแสเลือดในรูปของไคโลไมคอล พบว่าการดูดซึมวิตามินอีต่ำๆ จะมีประสิทธิภาพดีกว่าวิตามินอีปริมาณสูงๆ และส่งต่อไปเก็บสะสมที่ตับ นอกจากนี้ยังพบอยู่ตาม เนื้อเยื่อไขมัน หัวใจ ปอด และอยู่ในชั้นผิวหนังของอวัยวะนั้นๆ มีการสะสมได้เป็นเวลานาน มีการขับออกทางอุจจาระโดยผ่านที่ตับ ส่วนเมตาบอไลต์จะออกทางปัสสาวะ

สารหรืออาหารเสริมฤทธิ์

  • วิตามินเอ วิตามินบีรวม วิตามินบี 1 INOSITOL วิตามินซี แมงกานีส เซเลเนียม

สารหรืออาหารต้านฤทธิ์

  • มลภาวะทางอาหาร คลอรีน ยาปฏิชีวนะ เหล็ก ที่อยู่ในรูป ferric iron น้ำแร่ ยาคุมกำเนิดชนิดรับประทาน ฮอร์โมนเอสโทรเจน

การเสื่อมสลาย

  • การปรุงโดยใช้ความร้อนสูง หรือถูกแสงแดด การขัดสี การบดเพื่อทำแป้ง และการกลั่นน้ำมันพืช รวมทั้งการแปรรูปที่มีความสลับซับซ้อน จะทำให้สูญเสียวิตามินอีได้

http://www.sportronfamily.com/index.php?lay=show&ac=article&Id=573615&Ntype=42

ไม่มีความคิดเห็น: